กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ จ.บุรีรัมย์

เมื่อวันที่ (21 ส.ค.2566) เวลา 10.36 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสวนผักของ นายเดชสิทธิ์ โสประโคน ตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ อดีตพลทหารที่เคยปฏิบัติงานในโครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 26 ปลดประจำการเมื่อเดือนตุลาคม 2565

การฝึกอบรมการปลูกผักปลอดภัยแก่พลทหารกองประจำการในโครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก มีการจัดพลทหารกองประจำการที่มีความสนใจเข้าไปปฏิบัติงาน โดยมีเจ้าหน้าที่โครงการฯ เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ ทั้งด้านเกษตรกรรม และปศุสัตว์ เมื่อปลดประจำการได้รับเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทานเพื่อนำความรู้ไปกระจายสู่ชุมชนของตนเอง เช่น นายเดชสิทธิ์ โสประโคน ที่มีความสนใจในการทำเกษตร รับผิดชอบแปลงหน่อไม้ฝรั่ง จึงนำประสบการณ์การปลูกหน่อไม้ฝรั่งมาทำที่บ้านของตนเองในช่วงที่ลาพักกลับบ้าน ในเนื้อที่ 1 งาน และมีเจ้าหน้าที่โครงการทหารพันธุ์ดีเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ หลังปลดประจำการแล้ว ได้ย้ายมาอยู่บ้านภรรยา ประกอบกับพื้นที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่งที่บ้านตนเองประสบปัญหาน้ำท่วม จึงได้ปลูกผักปลอดภัย เลี้ยงสัตว์ ทำปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน ในพื้นที่ 2 งาน ที่บ้านภรรยา นำผลผลิตมาประกอบอาหารภายในครอบครัว และจำหน่ายให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง ผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย และสร้างรายได้เสริมแก่ครอบครัว ปัจจุบัน นายเดชสิทธิ์ ได้ชักชวนเพื่อนบ้านให้ปลูกผักในพื้นที่ว่าง เป็นการขยายความรู้สู่ชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เวลา 11.44 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ทรงฟังรองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 กราบบังคมทูลรายงานโครงการทหารพันธุ์ดี ที่ดำเนินงานภายในค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ตั้งแต่ปี 2559 ในพื้นที่ 28 ไร่ แบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ พื้นที่เพาะปลูก, พื้นที่ปศุสัตว์, แหล่งน้ำ และพื้นที่อื่น ๆ เน้นปลูกผักปลอดภัยที่เติบโตดีเป็นพิเศษ คือ หน่อไม้ฝรั่ง และปลูกพืชสมุนไพรเพื่อนำไปใช้ในโรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก, ทำน้ำส้มควันไม้ ใช้ผลิตจุลินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ, เลี้ยงปลานิลจิตรลดา, เป็ดเทศกบินทร์บุรี, ไก่ประดู่หางดำ, กบทุ่งกุลา, สุกร และโค มีทหารกองประจำการที่สนใจเรียนรู้เรื่องการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ อาสาเข้าร่วมโครงการ เมื่อปลดประจำการสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปดำเนินการในพื้นที่ของตน และกระจายความรู้สู่ชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ส่วนกองพลทหารราบที่ 6 และกองกำลังสุรนารี ดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดีตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบัน มีหน่วยเข้าร่วมโครงการทหารพันธุ์ดี 10 หน่วย ในจังหวัดร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร และอุบลราชธานี เน้นปลูกผักปลอดภัย และขยายผลสู่ชุมชน ชักชวนให้เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ปลูกผลไม้พระราชทาน ลดรายจ่าย หากมีมากสามารถจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว นอกจากนี้ ยังจัดตั้งศูนย์ผลิตพันธุ์ปลาน้ำจืดพระราชทาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” พื้นที่อีสานใต้ ที่จังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ ในช่วงเดือนมกราคม 2565 ถึงเดือนกรกฎาคม 2566 สามารถผลิตพันธุ์ปลาพระราชทานได้ 375,860 ตัว และจัดตั้งศูนย์ผลิตพันธุ์สัตว์ปีกพระราชทาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” พื้นที่ภาคอีสานใต้ ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร และนครราชสีมา เป็นการทดลองเลี้ยงไก่ เพื่อผลิตเป็นไก่พื้นเมืองพระราชทาน

เวลา 13.58 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการขยายผลโครงการทหารพันธุ์ดี “ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย” สู่โรงเรียนบ้านหนองม่วง ตำบลทะเมนชัย อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ของมณฑลทหารบกที่ 26 โดยเข้าร่วม เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นโรงเรียนขยายโอกาส จัดการเรียนการสอนชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบันมีนักเรียน 243 คน ซึ่งมูลนิธิเทพอำนวย โดยกองทัพบก ร่วมสนองพระราชดำริผ่านการส่งเสริมการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี “ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย” ปัจจุบันมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ 289 โรงเรียนทั่วประเทศ

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งคณะครูได้แนวความคิดมาจากการไปศึกษาดูงานที่โครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 26 และกลับมาทดลองปลูก เพื่อเป็นอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน ปัจจุบันสามารถขยายพันธุ์หน่อไม้ฝรั่ง และมีแผนแบ่งปันเมล็ดและกล้าพันธุ์ให้แก่ผู้ปกครองที่สนใจนำไปเพาะปลูกเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน

นอกจากนี้ โรงเรียนได้ทดลองเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง เพื่อมาประกอบอาหารกลางวัน เนื่องจากมีโปรตีนสูง ต้นทุนการเลี้ยงต่ำ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู พร้อมเลี้ยงกบและปลานิลจิตรลดาพระราชทาน ซึ่งทหารพันธุ์ดีเข้ามาอบรบขั้นตอนการเลี้ยง การให้อาหาร เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ แล้วทอดพระเนตร “ร้านขายผักของยายๆ” ซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียน ได้นำพืชผักสวนครัวที่ปลูกบริเวณบ้าน มาวางจำหน่ายภายในโรงเรียนเป็นประจำทุกวันหลังเลิกเรียน เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

จากนั้น ทอดพระเนตรแปลงผักของ นางสมกมล แซงรัมย์ อายุ 77 ปี เกษตรกรบ้านหนองม่วงใต้ ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียน โดยเป็นหนึ่งในยายของนักเรียนบ้านหนองม่วง ที่นำผักมาขายในโรงเรียน ซึ่งสนใจการทำเกษตร ปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานเอง และจำหน่ายแก่เพื่อนบ้านใกล้เคียง รวมถึงโรงเรียน เพื่อเป็นรายได้เสริมให้ตนเองและครอบครัว ซึ่งได้นำเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน เช่น กระเจี๊ยบเขียว, มะเขือเปราะเจ้าพระยา และถั่วฝักยาวสีม่วงสิรินธร มาปลูกเพื่อรับประทานในครัวเรือน เหลือจำหน่าย และเก็บเป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับแจกจ่ายช่วยเหลือเพื่อนบ้านในชุมชน

ข้อมูล ส.ปชส. จ.บุรีรัมย์

ใส่ความเห็น