อพท. เตรียมประกาศ “บุรีรัมย์” เป็นพื้นที่พิเศษ เดินหน้าเปิดเวทีรับฟังความเห็นภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว

วันนี้ (10 ม.ค. 65 ) ที่ โรงแรม Cresco อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์  นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมจัดการประชุม “รับฟังความคิดเห็นภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว การประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จังหวัดบุรีรัมย์”ภายใต้ โครงการการศึกษาความเหมาะสมเพื่อเตรียมประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนและตัวแทนวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์เข้าร่วมประชุม

 โดยการประชุมในครั้งนี้ได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมรวมถึงผู้จัดงานและเจ้าหน้าที่ จะต้องผ่านการตรวจ ATK และผ่านจุดคัดกรองก่อนเข้าร่วมประชุม รวมถึงมีการนำระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์มาใช้ในการประชุมอีกด้วย ซึ่งการประชุมในวันนี้ได้มีการนำเสนอผลการศึกษาการประเมินพื้นที่ เพื่อกำหนดร่างขอบเขตพื้นที่พิเศษจังหวัดบุรีรัมย์ เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อร่างขอบเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน, การประชุมกลุ่มย่อย เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ และความต้องการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงการระดมความคิดเห็นการประเมินความพร้อมของภาคีเครือข่ายการขับเคลื่อนพื้นที่พิเศษจังหวัดบุรีรัมย์

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า อพท. กำหนดจัดกิจกรรมการประชุม “การรับฟังความคิดเห็นภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวการประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จังหวัดบุรีรัมย์” เพื่อนำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมของจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ได้รับทราบพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ ก่อนที่จะนำเข้าสู่กระบวนการเตรียมประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยผลการศึกษาดังกล่าวได้รวบรวมข้อมูลทั้งในด้านศักยภาพของพื้นที่ ตลอดจนขั้นตอนและประโยชน์ของประชาชนและจังหวัดจะได้รับจากการประกาศให้พื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์แห่งนี้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนอกจากผู้ร่วมรับฟังจะได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ยังจะได้รับรู้ถึงแนวทาง แผนงานและโครงการที่จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ จังหวัดบุรีรัมย์ และเพื่อเตรียมความพร้อมของภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ ในการขับเคลื่อนร่วมกับ อพท. เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายใต้มาตรฐานระดับสากล

ทั้งนี้ อพท. หวังว่า กิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายเจ้าของพื้นที่ทุกภาคส่วน เพื่อให้ อพท.สามารถเข้ามามีส่วนร่วมและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับพื้นที่พิเศษจังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยปรัชญาการทำงานแบบ Co-Creation ภายใต้แนวความคิด 5 ร่วม ของ อพท. คือ “ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบและร่วมรับผลประโยชน์ ” และเพิ่มอีก 1 ร่วม คือร่วมเป็นเจ้าของ หรือ Co-Own เพื่อสร้างให้เกิดความหวงแหนทรัพยากรที่มีคุณค่าในจังหวัด ช่วยเพิ่มและกระจายรายได้จากกิจกรรมการท่องเที่ยวไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ด้วยมือสำคัญที่ อพท. นำมาพัฒนาและสร้างต้นแบบเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน คือ เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria: GSTC) ที่มุ่งสร้างความยั่งยืน ดูแลครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งการจัดการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ การอนุรักษ์ทรัพยากร คุณภาพสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม

ครือข่ายด้านการท่องเที่ยว

รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งทางสังคม และเศรษฐกิจ สำหรับหน่วยงานและผู้จัดการแหล่งท่องเที่ยว อพท. ได้ใช้มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STMS) ที่ได้พัฒนาและ ได้รับการรับรองในระดับสากลแล้วสำหรับการพัฒนาและยกระดับให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดำเนินการด้านท่องเที่ยว เพื่อนำองค์ความรู้ไปพัฒนาให้กับชุมชนในพื้นที่ของตัวเอง ขณะที่ในภาคชุมชน อพท. จะใช้เครื่องมือการพัฒนาและขับเคลื่อนผ่านเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย หรือ CBT Thailand ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ ได้ผ่านการทดสอบและเห็นผลในการสร้างคุณภาพและความยั่งยืนในพื้นที่พิเศษที่ อพท. ได้ดำเนินการแล้ว

อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ 2564 อพท. ได้จัดทำโครงการศึกษาความเหมาะสมเพื่อเตรียมพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ โดยได้รับความร่วมมือจากคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหาสารคราม เป็นที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งผลการจังหวัดบุรีรัมย์มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูงทั้งในด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคมวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและมีองค์ประกอบครบถ้วนตามเกณฑ์การประเมินพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยจังหวัดบุรีรัมย์มีผลการประเมินที่ร้อยละ 81 ซึ่งสามารถประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ จากนั้น อพท.ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมซน สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้าน

การท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง ได้เสนอร่างขอบเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจังหวัดบุรีรัมย์ ไปเมื่อเดือน กันยายน 2564 และรวบรวมข้อมูลชิงลึกเพิ่มเติมในพื้นที่จริง ก่อนจะนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ตามเพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจังหวัดบุรีรัมย์

ครือข่ายด้านการท่องเที่ยว

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ชาวบุรีรัมย์พร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้านเพื่อผลักดันให้จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ยกระดับเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อันจะช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ กระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนต่างๆในจังหวัด ผู้คนสามารถเลี้ยงดูตนเองได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงทางด้านนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ภายหลังสถานการณ์โควิด- 19 คลี่คลายจังหวัดได้วางแผนดำเนินโครงการท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้แก่ “GU GUIDE พาเที่ยวบุรีรัมย์ 365 วัน” เป้าหมายเพื่อผลักตันให้บุรีรัมย์เป็นพื้นที่ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เป็นการดึงศักยภาพของคนในชุมขนให้มีอาชีพเสริม คือ การเป็นนักสื่อความหมาย (ไกด์) นำเที่ยวในชุมขน โดยโครงการ GU GUIDE ได้เปิดรับสมัครคนในจังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มชุมชนท่องเที่ยวที่มีโฮมสเตย์ หรือไม่มีโฮมสเตย์ ผู้ที่มีใจรักบริการ มีรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ หรือรถสามล้อพ่วงข้างที่สามารถโดยสารคนได้ เข้าร่วมโครงการ ผู้สมัครจะได้รับการอบรมการบริการนำเที่ยวชุมขน การอบรมด้านการขนส่งโดยสารเพื่อการท่องเที่ยว พร้อมจัดทำโปรแกรมเส้นทางการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวในชุมชน ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจส่งเสริมให้เกิดรายได้ และการพัฒนาจังหวัดทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวด้วย

ด้วยแนวคิดและวิธีการจัดการที่ดี จังหวัดบุรีรัมย์จึงมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังโควิด-19คลี่คลาย และพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมภายในจังหวัด ที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าไปส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน จำนวนกว่า 100 หมู่บ้าน และได้รับการส่งเสริมต่อยอดจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานพื้นที่พิเศษ 2 ของ อพท. รวมถึงภาคเอกชนต่าง ๆ ในการสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน หากจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การพัฒนาที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากนั้น จะมีการยกระดับสู่มาตรฐานระดับสากล และขยายตลาดนักท่องเที่ยวออกได้กว้างขึ้น และตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ สุดท้ายชุมชนและพื้นที่ก็จะเป็นผู้รับประโยชน์ที่เกิดขึ้นและเป็นผลพวงจากการพัฒนา