บุรีรัมย์ ทลายเครือยาเสพติดระบาดถึงเด็กวัย14 ติดงอมแง่ม

เด็กนักเรียนที่ อ.หนองกี่วัย 14 ปี เสพยาบ้า ตำรวจติดตามขยายต่อ พบยาบ้ากว่า 1.6 แสนเม็ด เป็นของผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่สั่งการให้ลูกสมุนนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้า

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 เวลา 13.30 น. ที่หอประชุมชัยจินดา สภ.เมืองบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ยุทธนา ไตรทิพย์ ผกก.สภ.หนองกี่, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรักษา รอง ผกก.สส.สภ.หนองกี่ ,พ.ต.ต.อำนาจ หนองหาญ สว.สส.สภ.หนองกี่ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองกี่ แถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ตามยุทธการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” โดยสามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติด จำนวน 1 เครือข่าย จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คดี รวมจำนวน 5 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 166,429 เม็ด และได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 12 คัน รวมมูลค่า 120,000 บาท

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ส.ค.66 ชุดสืบสวน สภ.หนองกี่ ได้ทำการจับกุมนักเรียนชายรายหนึ่ง อายุ 14 ปี ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และได้ควบคุมตัวส่งทำการบำบัดฟื้นฟูที่ ร.พ.หนองกี่ จากการสอบสวนขยายผลทราบว่าเยาวชนชายอายุ 14 ปี คนดังกล่าว ได้ซื้อยาบ้าจากเพื่อนรุ่นพี่ ทราบชื่อคือ นายเก่ง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี กับนายเล็ก (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี จึงทำการขยายผลล่อซื้อจับกุมทั้ง 2 ราย ได้พร้อมของกลางยาบ้า 224 เม็ด หลังจากนั้นขยายผลจับกุม นายอาร์ท (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 37 เม็ด พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง

จากการสืบสวนขยายผลยังทราบด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกจับกุมได้ซื้อยาบ้าจาก นายชาคริต (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี กับนายกุศ(นามสมมุติ)อายุ 24 ปี จึงวางแผนเข้าจับกุมทั้ง 2 ราย ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 166,168 เม็ด ที่เก็บซุกซ่อนไว้ในบ้านพักของ นายชาคริต ในหมู่บ้านเย้ยปราสาท ต.เย้ยปราสาท อ.หนองกี่ จว.บุรีรัมย์ ซึ่งทั้ง 2 ให้การยอมรับสารภาพว่า พวกตนทำหน้าที่เก็บรักษายาบ้าและคอยนำไปวางให้กับลูกค้า ตามคำสั่งของนายวราวุธ (นามสมมุติ) 27 ปี หรือฉายาเสี่ยนิว หนองกี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดที่หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ซึ่งในแต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท โดยทำมาแล้วหลายครั้ง ส่วนลูกค้าจะเป็นคนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ใส่ความเห็น