ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์แถลงผลการจับกุม รวบ”แก๊งค์ขโมยรถยนต์กระบะ” ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์

วันนี้ (22 ก.ค.62) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม กลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตามมาตรการป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์  ภ.จว.บุรีรัมย์ จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยมีตัวแทนผู้เสียหายได้นำกระเช้าของขวัญมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นการขอบคุณในการปฏิบัติงานในครั้งนี้ ณ บริเวณหน้า สภ.เมืองบุรีรัมย์   เหตุเกิด เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2562 จับกุมผู้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 19-20 ก.ค.2562

1.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ รุ่น ดีแม็ค แคป สีเทา ทะเบียน บฉ 5098 บุรีรัมย์ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ จว.บุรีรัมย์  รับแจ้งเหตุที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ภ.จว.บุรีรัมย์ ผู้เสียหาย นายประกิจ ทองประโคน บ้านเลขที่ 83 ม.3 ต.โคกมะขาม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์

2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ รุ่น ดีแม็ค แคป สีน้ำตาล  ทะเบียน บร 2331 สุรินทร์  เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ประโคนชัย จว.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุที่ สภ.ประโคนชัย ภ.จว.บุรีรัมย์ ผู้เสียหาย นายพินิจ งามระหงส์   บ้านเลขที่ 32 ม.2 ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์

ศปจร.ภ.จว.บุรีรัมย์  จึงได้ประสานแจ้งข้อมูลให้ สภ.ในพื้นที่ โดยเฉพาะ สภ.เขตพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรถยนต์ ตามจุดตรวจฯ

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ได้รับแจ้งจาก สภ.โนนดินแดง จว.บุรีรัมย์ ว่าได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน  เนื่องจากรถยนต์ดังกล่าวมีพฤติกรรมขับรถหลบหนีด่านจุดกวดขันวินัยจราจรป้อมกันปราบปราม อาชญากรรม ที่หน้าตู้ยามเฉลิมพระเกียรติ ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถยนต์โล่เปิดสัญญาณไฟวับวาบไล่ติดตาม ทำให้กลุ่มคนที่ขับรถยนต์ทั้ง 3 คัน จอดรถทิ้งไว้แล้วพากันหลบหนี ทราบเบื้องต้นว่ามีจำนวน 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน

จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะ ที่ตรวจยึดไว้ทั้ง 3 คัน  ทราบว่าเป็นรถยนต์กระบะที่ถูกคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์มา ทั้ง 3 คัน ได้แก่

1.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ รุ่น ดีแม็ค แคป สีเทา (เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่)รับแจ้งเหตุที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ภ.จว.บุรีรัมย์  เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2562

2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ รุ่น ดีแม็ค แคป สีน้ำตาล (เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่)รับแจ้งเหตุที่ สภ.ประโคนชัย ภ.จว.บุรีรัมย์  เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2562

3.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ รุ่น ดีแม็ค แคป สีฟ้า ฝาประโปรงสีดำ บริเวณแคปสีดำ (เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่) ตรวจสอบข้อมูลรถยนต์พบว่าเป็นรถยนต์คันที่หายและรับแจ้งเหตุที่ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี  เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2562

เหตุคดีดังกล่าว  พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ  ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์,พ.ต.อ.อดุลย์ ชัยประสิทธิกุล ผกก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์,พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์  ให้ความสนใจเนื่องจากกลุ่มคนร้ายเหล่านี้อาจจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งต่างพื้นที่ ทำให้ประชาชนผู้เสียหายได้รับความเดือนร้อน  จึงได้มอบหมายให้ กก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์  ทำการสืบสวน ประสานข้อมูล สภ./หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ติดตาม จับกุม กลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้จงได้

จากการสืบสวน ประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลจากพลเมืองดี ทำให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ คือกลุ่มของนายสมพร หรือวุฒิ (นามสมมุติ) ทำให้สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ทั้ง 4 คน

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2562  จับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 3 ราย คือ นายสมพร หรือวุฒิ (นามสมมุติ),น.ส.สุปรางทิพย์ หรือขวัญ(นามสมมุติ) และนายสันติ หรือมิ๊ก หวานเย็น  ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว  และติดตามจับกุมที่เหลืออีก 1 คน นายภวินทร์ หรือบอย (นามสมมุติ) ช่วงเช้าของวันที่ 20 ก.ค.2562 หลบซ่อนตัวอยู่ที่ ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการงัด/สตาร์ท รถยนต์/มือถือ/แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์  ดังนี้

1.นายสมพร หรือวุฒิ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี  ชาวบ้าน ต.ทัพเสด็จ อ.พระยา จว.สระแก้ว ทำหน้าที่เป็นคนใช้อุปกรณ์เครื่องมือ เปิดประตูรถ/สตาร์ทรถยนต์ – ติดต่อนายทุนชาวกัมพูชา – ไปรับเงินฝั่งประเทศกัมพูชา และแบ่งเงินให้กับผู้ร่วมก่อเหตุ

*มีหมายจับศาลจังหวัดปราจีนบุรี ข้อ ร่วมกันหาลักทรัพย์ (รถยนต์) ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ หรือรับของโจร พื้นที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี จว.ปราจีนบุรี ภ.2

2.น.ส.สุปรางทิพย์ หรือขวัญ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาวบ้าน ต.บางเสร่ อ.สัตหีบจ.ชลบุรี เป็นแฟนสาวของนายสมพร หรือวุฒิฯ ร่วมก่อเหตุ

3.นายสันติ หรือมิ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 23 ปีชาวบ้านต.ตาพระยา อ.ตาพระยาจ.สระแก้ว ทำหน้าที่ หาเป้าหมาย-ดูต้นทาง และขับรถยนต์

*มีหมายจับศาลจังหวัดปราจีนบุรี ข้อหา ร่วมกันหาลักทรัพย์ (รถยนต์) ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ หรือรับของโจร พื้นที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี จว.ปราจีนบุรี ภ.2

4.นายภวินทร์ หรือบอย (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ชาวบ้าน ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ทำหน้าที่ หาเป้าหมาย-ดูต้นทาง และขับรถยนต์*มูลค่าความเสียหาย  ประมาณ 1,000,0000 บาท

จากการซักถามผู้ถูกจับ ยอมรับว่าก่อนหน้าที่จะก่อเหตุในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์  พวกตนเคยร่วมกันกับพวกก่อเหตุในลักษณะนี้ในพื้นที่ อ.พัทยา จ.ชลบุรี, อ.บางบ่อ จ.สมุทรปาการ และ อ.เมืองปราจีนบุรี  เพื่อขายให้นายทุนชาวกัมพูชา ในราคาคันละ 50,000 บาท

พฤติการณ์  กลุ่มคนร้ายจะขับรถยนต์ ตระเวนหารถยนต์เป้าหมาย โดยจะเลือกรถยนต์ยี่ห้อ อิซูซุ ดีแม็ค  แบบที่เป็นระบบเกียร์ธรรมดา (ไม่ใช่ระบบเกียร์แบบออโต้) หากจุดที่จอดเอื้อต่อการก่อเหตุก็จะลงมือก่อเหตุ (ใช้เวลาในการก่อเหตุไม่กี่นาทีแล้วแต่รุ่นและจังหวะโอกาส) โดยจะแบ่งหน้าที่กันทำ  จากนั้นจะนำรถยนต์ ที่ได้มาไปจอดไว้ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แล้วบอกพิกัดตำแหน่งให้นายทุน ชื่อเบิร์ด ชาวกัมพูชาทราบ จากนั้นจะมีคนมารับรถยนต์ไป (กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ทราบว่ารถยนต์ จะออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านทางช่องทางไหน/วัน-เวลาใด) หลังจากนั้น ในวันต่อมานายสมพร หรือวุฒิฯ จะได้รับการติดต่อให้ไปรับเงิน โดยจะข้ามชายแดนเข้าไปประเทศกัมพูชา เพื่อรับเงินสด ที่นายทุนฝากไว้ เป็นเงินสกุลดอลล่าสหรัฐฯ แล้วแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทย เป็นเงิน 50,000 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายในการทำงานแล้วนำเงินที่ได้จากการขายรถยนต์มาแบ่งคนละเท่าๆ กัน ทุกคน เงินที่ได้จะใช้จ่าย เที่ยว และซื้อยาเสพติด

มีตัวแทนผู้เสียหายได้นำกระเช้าของขวัญมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นการขอบคุณในการปฏิบัติงานในครั้งนี้ ณ บริเวณหน้า สภ.เมืองบุรีรัมย์

ใส่ความเห็น