“อนุทิน” เดินทางมาร่วมสร้างขวัญกำลังใจ ประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งประเทศไทย มอบแนวทางดำเนินงาน แก่ จนท.สาธารณสุข

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งประเทศไทยพร้อมมอบแนวทางการดำเนินงาน และสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 7 ก.ย 2565 ที่ห้องประชุม โรงแรมอัลวาเรซ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเปิดงานประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ก้าวสู่ระบบปฐมภูมิยุคใหม่ ภายใต้ พรบ.กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ด้วยความร่วมมือของหมออนามัย พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณการประกวดผลงานวิชาการพัฒนาระบบสุขภาพด้านส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งมีผลงานวิชาการที่ส่งเข้าประกวดจำนวน 700 ผลงาน ทั้งในรูปแบบของงานวิจัย การวิจัยจากงานประจำ การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องผลงานที่ดีเลิศ หนังสั้น และภาพเล่าเรื่อง โดยมีการนำเสนอทั้งในรูปแบบภาคบรรยาย และภาพโปสเตอร์พิธีรับโล่รางวัลพระราชทาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอดีเด่น ระดับประเทศ และการมอบรางวัลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอดีเด่น ทั้งระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับภาค บุคลากรสาธารณสุขดีเด่น โดยมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์  ให้การต้อนรับ

ซึ่งสมาคมเครือข่ายหมออนามัย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข สมาคมเครือข่ายหมออนามัยวิชาการคณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุงและสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นเพื่อในระหว่างวันที่ 7 – 9 กันยายน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำเสนอผลงานวิชาการ การจัดนิทรรศการผลงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอดีเด่น และการเรียนรู้การพัฒนาและจัดการระบบสุขภาพ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ และการจัดการระบบสาธารณสุข มีโดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จากหน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ ภาคีเครือข่าย ผู้ทรงคุณวุฒิ วิทยากร ร่วม จำนวน 7,300 คน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า หมออนามัยมีความสำคัญในระบบสาธารณสุขของประเทศ การที่เราผ่านสถานการณ์โควิดมาได้อย่างดี เพราะมีทีมบุคลากร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่เข้มแข็ง ทุกคนมีความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ เข้าใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเอง และทุกคนพร้อมรับการถ่ายทอดนโยบายที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน “การกระจายอำนาจ” นั้น จะเป็นคำที่คนไทยเราจะได้ยินซ้ำแล้วซ้ำอีกในอนาคตอันใกล้ เพราะเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เริ่มกำหนดขึ้นมาครั้งแรกใน ปี 2540 และคงอยู่ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เรื่องการกระจายอำนาจใช้เวลานาน เพราะเป็นสิ่งที่ทุกกระทรวงจะต้องร่วมกันดำเนินการด้วยความรอบคอบ สิ่งที่จะกระจายไปพร้อมกับอำนาจ คือ ภารกิจความรับผิดชอบในการบริการประชาชน บุคลากร งบประมาณ โดยมีส่วนราชการส่วนกลางคอยสนับสนุน สิ่งที่สำคัญที่สุดและขอเน้นย้ำ คือ พี่น้องประชาชนต้องไม่เดือดร้อน ไม่ว่าบุคลากรสาธารณสุขจะอยู่ในสังกัดใด ต้องพร้อมรับใช้ช่วยเหลือดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน และพร้อมจะร่วมมือกันจัดบริการที่ดีที่สุด ทั้งในระดับหน่วยงาน และการร่วมกันดำเนินการในภาพรวมของจังหวัด เขตสุขภาพ และประเทศ ภายใต้พระราชบัญญัติการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ขอให้มองว่าเป็นโอกาสที่เราจะสามารถ “ก้าวสู่ระบบสุขภาพปฐมภูมิยุคใหม่” ได้ และทำให้ระบบสุขภาพมีความความมั่นคง ที่สำคัญคือ ทุกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เป็นครอบครัวสาธารณสุขเดียวกัน ขอให้ทุกท่านรักษาคุณภาพงานบริการ รักษามาตรฐานสาธารณสุข รักษาประโยชน์ของประเทศ รักษาสิทธิประโยชน์ของประชาชน ผู้ป่วยยังต้องได้รับการดูแลสุขภาพ และยังใช้สิทธิการรักษาพยาบาลได้ตามปกติ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต้องได้รับยาต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่ฉุกเฉินและมีอาการรุนแรงที่ไม่สามารถดูแล โดยพยาบาลของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลได้ตามมาตรฐานการรักษา กระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้การสนับสนุน ส่งเสริม การทำงาน ทุกองค์กร ทุกหน่วยงาน เพื่อให้งานด้านสาธารณสุข ทุกๆมิติ มีมาตรฐาน มีคุณภาพ และเป็นหลักประกันด้านสุขภาพให้แก่ประชาชน

ใส่ความเห็น