บุรีรัมย์ ตระเวนขโมยปั๊มน้ำประปาเก็บออมหวังซื้อทอง 5 บาทได้แค่ 2 บาท

ไปไม่ถึงฝัน หนุ่มวัย 48 ปี ชาว อ.หนองกี่ บุรีรัมย์ ตระเวนขโมยมอเตอร์ปั่นน้ำประปาหมู่บ้าน 14 อำเภอ กว่า 50 หมู่บ้าน นาน 3 ปี ได้มาชำแหละชิ้นส่วนขาย โดนตำรวจรวบสารภาพสิ้น จับพิกัดง่าย ขโมยง่าย ขอโทษทำชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีน้ำใช้ ยอมรับตั้งเป้าจะเก็บเงินจากการขโมยของไปซื้อทองให้ถึง 5 บาท หวังอวดสาว แต่ได้แค่ 2 บาทโดนจับก่อน

วันที่ 8 ก.ย.65 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมตำรวจชุดจับกุม ร่วมแถลงหลังสามารถจับกุมนายหน่อย (นามสมสมุติ) อายุ 48 ปี และนางเลี้ยม (นามสมสมุติ) อายุ 54 ปี สองสามีภรรยาได้ที่อยู่ ชาวอำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์

พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู้ปปิ้ ไอ สีน้ำเงินขาว,รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 R สีดำ พร้อมพ่วงข้างมีหลังคา ,เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ,อุปกรณ์ที่ใช้ในการลักเครื่องปั้มน้ำ จำนวนหลายรายการ ,เงินสดรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 7 ฉบับ เป็นเงิน 7,000 บาท ,สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น และชิ้นส่วนปั๊มน้ำแบบมอเตอร์อีกเป็นจำนวนมาก

หลังจากตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ติดตามมานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านในหลายอำเภอ อย่างน้อย 14 อำเภอ รอยต่อจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดนครราชสีมา รวมแล้วกว่า 50 หมู่บ้าน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมอเตอร์ปั๊มน้ำของประปาหมู่บ้าน ได้หายไป บางแห่งหายถึง 2 ครั้ง

จากการสอบสวนนาย หน่อย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้เป็นคนก่อเหตุจริง โดยจะออกไปตระเวนขโมยมอเตอร์ปั๊มน้ำ แล้วเอามาชำแหละแยกชิ้นสวนขายให้กับร้านเจ้าประจำที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์

เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2562 ยอมรับว่าขโมยง่าย เนื่องจากประปาหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งมีปั๊มน้ำอยู่แล้ว จะอยู่นอกชุมชน ประกอบกับสามารถเลือกเป้าได้ง่ายกว่าบ้านเรือนชาวบ้าน เมื่อเห็นแทงค์น้ำแล้วจะขับเข้าไป เชื่อว่าจะต้องมีปั๊มน้ำแน่นอน

ขณะที่นางเลี้ยม ภรรยานายหน่อย เล่าว่า สังเกตุหลายครั้งสามีมักจะออกจากบ้านในตอนดึก แล้วกลับมาตอนเช้ามืดเป็นประจำ ปั๊มน้ำที่ได้มาจะเอากาละมังครอบไว้ รุ่งเช้าก็จะเอามาชำแหละ แล้วให้ตนเอาไปขายกับร้านรับซื้อของเก่า เมื่อถามว่าเอามาจากไหน สามีบอกว่าเพื่อนเอาให้

นางเลี้ยม ยังเล่าด้วยว่า สามีเคยบอกว่า”ฝันอยากได้สร้องคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท”ส่วนตัวคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะครอบครัวหาเช้ากินค่ำ แต่ระยะหลังสามีเริ่มเก็บหอมรอมริบ ซื้อสร้อยคอมาทีละ 50 สตางค์ จนกระทั่งล่าสุดสามารถเพิ่มน้ำหนักได้เป็น 2 บาท แต่ไม่ให้ตนใส่ ส่วนใหญ่จะใส่ไปอวดสาวๆ ส่วนหนึ่งก็แอบดีใจที่สามีเก็บเงินเก่งคาดว่าคงจะได้สร้อยทองน้ำหนัก 5 บาทอย่างแน่นอน

เมื่อคืนก่อนมีอีกา มาเกาะรั้วหน้าบ้าน ส่งเสียงร้องแล้วผงกหัว 3 ครั้ง ตกใจมากเพราะเป็นลางที่ไม่ค่อยดีมากนัก รุ่งเช้าตื่นตั้งแต่ตี 4 ทำกับข้าวใส่บาตรพระ พอสายมา มีตำรวจมาถึงบ้านพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาสามีกับตน จริงแล้วตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ ที่เอาไปขายเพราะสามีบังคับจึงทำตาม ทั้งนี้ตำรวจตั้งข้อหา”ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์ในไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ และรับของโจร “นำตัวส่ง พนักงานสอบสวนในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งความเอาไว้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามีการแจ้งความไว้ในพื้นที่ใดบ้าง

ใส่ความเห็น