บุรีรัมย์เจ๊า 0-0รวมสองนัดเสมอ 1-1 เข้าชิงชลบุรี

การเเข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศเเห่งประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี “โค้กคัพ” ครั้งที่ 21 รอบรองชนะเลิศ แข่งในระบบเหย้า-เยือน โดยเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่สนามช้างอารีน่า เป็นการพบกันในนัดที่สอง ระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าครั้งที่ 20 และแชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กับ “กิเลนเจ้าสัว” อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด แชมป์โซนภาคตะวันตก โดยเกมแรกทั้งคู่เสมอกัน 1-1 ในบ้านของอัสสัมชัญ ทำให้ บุรีรัมย์ ขอเพียงผลเสมอ 0-0 ก็จะเข้ารอบภายใน 90 นาทีทันที
11 คนแรกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย ธนิศร ไพบูลย์กิจเจริญ, กิตติชัย ใยดี, ธีรภักดิ์ เปรื่องนา, ธนดล ขาวสะอาด, ภัทร สร้อยมาลัย, อภิเดช จันทร์งาม, บดินทร์ สระแก้ว, กฤตภาส วิชัยดิษฐ, วินัย เอี่ยมโอด, ธนโชติ พุกตื้อ และ นพพล ละครพล เป็นผู้รักษาประตู ด้าน 11 คนแรกของ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย ปกรณ์เกียรติ แข้นา, นุชา นกดี, วัชรกร บุณยะยุต, ธนายุทธ์ จันนา, สิทธิรักษ์ เกิดขุนทอง, ผดุงเกียรติ อาจคิดการ, พชรดนัย เขตต์ปรุ, ทักษิณ ปิ่นวันนา, นิติบดินทร์ มะคต และ ณัฐสันต์ ปักการะโณ เป็นผู้รักษาประตู
ในนาทีที่ 6 เจ้าถิ่นมีจังหวะทักทายก่อนจากการขึ้นเกมทางฝั่งขวาแต่ อภิเดช จันทร์งาม ที่ยืนอยู่ในกรอบ 6 หลาแหย่เท้าไม่โดนบอลทำให้ออกหลังไป จากนั้นนาทีที่ 10 นุชา นกดี ของอัสสัมชัญมีจังหวะซัดไกลนอกกรอบเขตโทษแต่บอลก็หลุดเสาออกไป ต่อมาในนาทีที่ 12 อัสสัมชัญ ตัดเกมได้ตรงกลางสนามแล้วเซตบอลขึ้นมาพอมาถึง ธนายุทธ์ จันนา ลากบอลขึ้นมายิงนอกกรอบเขตโทษบอลลอยข้ามคานไปแบบได้ลุ้น ขณะที่นาทีที่ 17 บุรีรัมย์ เกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากการเซตบอลขึ้นมาแล้ว อภิเดช จันทร์งาม ที่ได้บอลในกรอบเขตโทษยิงผ่านหน้าประตูไปโดยที่ไม่มีใครมาซ้ำดาบสอง
ในนาทีที่ 29 บุรีรัมย์ น่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ อภิเดช จันทร์งาม ลากบอลขึ้นมาแล้วยิงด้วยซ้าย แต่โดนนายด่านกิเลนเจ้าสัวปัดทิ้งแต่บอลยังไปเข้าทาง ภัทร สร้อยมาลัย ที่วิ่งมาซ้ำดาบสองแต่ ณัฐสันต์ ปักการะโณ ยังลุกขึ้นมาเซฟไว้ได้ จากนั้นเป็นทางเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้เหนือกว่าแต่ก็ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกได้ ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ช่วงครึ่งหลังเกมผ่านไป 10 นาที บุรีรัมย์ พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ ส่วนทาง อัสสัมชัญ ตั้งเกมรับแน่นรอฉกจังหวะโต้กลับ ในนาทีที่ 57 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แข้งทีมชาติไทยชุดใหญ่ของบุรีรัมย์เปลี่ยนตัวลงไปและมีโอกาสยิงฟรีคิกหน้าประตูแต่บอลหลุดเสาออกไป จากนั้นนาทีที่ 62 อภิเดช จันทร์งาม ที่แผลงฤทธิ์กระชากบอลขึ้นมาเองแล้วกดด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลลอยหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ต่อมาทั้งสองทีมผลักกันครองเกม โดยทีมกิเลนเจ้าสัวมีจังหวะบุกขึ้นมา 2-3 ครั้งแต่ก็ไม่เป็นประตู
10 นาทีสุดท้ายเกมเริ่มสนุกขึ้นเมื่อทีมเยือนเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่แนวรับเจ้าถิ่นอ่านเกมดักทางไว้ได้หมดเน้นตัดเกมกลางสนาม โดยอัสสัมชัญยิ่งเล่นยิ่งหงุดหงิดบอลไปไม่ถึงแดนหน้า ทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 รวมสองนัดเสมอกัน 1-1 แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าไปชิงชนะเลิศกับ ชลบุรี เอฟซี ด้วยกฎอเวย์โกล โดยรอบชิงชนะเลิศจะแข่งกันในวันที่ 27 ก.พ.2563 ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 17.00 น. ทีมที่ชนะจะได้เงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมไปเปิดประสบการณ์ฝึกทักษะฟุตบอลที่อังกฤษกับสโมสรลิเวอร์พูล

แมนออฟเดอะแมตช์
ณัฐสันต์ ปักการะโณ (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด)

ใส่ความเห็น