นาคิน วิเศษชาติ : จากช่วงชีวิตที่เคยไร้สังกัด จนก้าวมาติดทีมชาติไทย U23
แข้งสู้ชีวิต ที่ต้องเผชิญอุปสรรคมากมายในชีวิต ทั้งช่วงเวลาที่ยากจนสุดๆ ไม่มีสังกัดให้เล่น จนต้องไปขอทดสอบฝีเท้ากับหลายสโมสรในช่วงปิดฤดูกาล แต่ล่าสุด นาคิน วิเศษชาติ ได้ก้าวมาติดทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การคุมทีมของอเล็กซานเดร กามา ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก
กราฟชีวิตของเขา สวิงพอสมควร เพราะหากย้อนกลับไปสองปีก่อน เขายังต้องเดินหน้าทดสอบฝีเท้าเพื่อหาสโมสร ก่อนที่จะได้โอกาสมาติดทีมชาติไทย U19 ชุดแชมป์อาเซียน เมื่อปี 2017
แต่ปีที่ผ่านมา ชื่อของเขากลับหายไปอีกครั้ง ก่อนจะได้รับโอกาสในครั้งนี้
“ผมดีใจมากครับ ที่มีชื่อติดทีมชาติไทยอีกครั้ง การติดทีมชาติในแต่ละครั้ง มันทำให้ผมภูมิใจเสมอ” แบ็คขวาวัย 20 ปี กล่าวเริ่ม
“ปีที่ผ่านมา ก็ถือเป็นปีที่ยากลำบากพอสมควร มันมีทั้งความรู้สึกที่ดีและไม่ดี แต่ตอนไม่มีชื่อกับทีมชาติไทย U19 ผมเสียใจมาก ซึ่งผมต้องยอมรับว่าตัวผมเองก็ทำได้ไม่ดีด้วย และบางทีก็ไม่มีสมาธิเท่าไหร่กับตัวเอง ซึ่งผมเคารพการตัดสินใจของโค้ช ที่ตัดเราออกไป ณ เวลานั้น”
“ถามว่าเสียใจไหม มันก็ต้องเสียใจ แต่ผมก็ไม่คิดยอมแพ้ ก็พยายามกลับมาพัฒนาตัวเองใหม่ มองตัวเองอีกครั้งว่าเราผิดพลาดอะไรไป ก็พยายามแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้น”
5 นัดในไทยลีก 2 ของ “เจ้าเอิร์ธ” ทำผลงานได้น่าประทับใจ หลังแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมไปถึง 3 ครั้ง และยิงประตูแรกในฟุตบอลอาชีพของตัวเองได้สำเร็จ พร้อมช่วยให้อาร์มี ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะทุกนัด เกาะกลุ่มหัวตารางในการเลื่อนชั้น สู่ลีกสูงสุด
“ที่ปีนี้ฟอร์มดีส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับทุกคนในสโมสร ผมอยากขอบคุณ สต๊าฟฟ์โค้ชทุกคน และรุ่นพี่ในทีมอาร์มี ยูไนเต็ด ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมช่วยเหลือผมเสมอ ส่วนตัวก็เซอร์ไพรส์กับฟอร์มด้วย โดยเฉพาะการทำประตูแรกในลีกอาชีพได้สำเร็จ (ในเกมกับ อยุธยา ยูไนเต็ด)”
“เป้าหมายของผมตอนนี้ก็พยายามทำให้ดีที่สุดในทุกนัด และช่วยให้ต้นสังกัดอย่างอาร์มี ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดให้ได้ ส่วนกับทีมชาติผมก็ต้องพยายามทำผลงานให้ทุกคนประทับใจ เพราะยอมรับเลยว่า ผมไม่รู้จักกับใครในทีมเลย เพราะถือเป็นน้องใหม่ด้วย”
นอกจากเรื่องในสนามที่ต้องสู้ แล้ว เรื่องนอกสนามก็เช่นกัน แต่วันนี้ “นาคิน วิเศษชาติ” ก็ทำสำเร็จในระดับขั้นหนึ่ง
“ก่อนหน้านี้ ผมก็ช่วยงานพ่อมาตลอด ระหว่างพักหลังซ้อม แต่ตอนนี้ก็สบายใจแล้วครับ ที่พ่อของผมไม่ต้องทำงานแล้ว และผมสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ในระดับหนึ่ง”
“มันดีใจมากนะครับ ที่เรามีส่วนช่วยให้ครอบครัวดีขึ้น แบ่งเบาภาระพ่อแม่ได้ ตั้งแต่ปีใหม่ตอนนี้พ่อก็ไม่ต้องทำงานแล้ว ผมเองก็พร้อมที่จะซัพพอร์ตในส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย”
“ความรู้สึกมันก็พูดไม่ถูก มันดีใจ ที่ไม่ต้องเห็นพ่อแม่เหนื่อยแล้ว จากที่แต่ก่อนต้องหาเงินมาเลี้ยงพวกผมตลอด แต่ตอนนี้ผมรู้สึกดีใจ และภูมิใจจริงๆ”
สำหรับทีมชาติไทย U23 จะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยโปรแกรมการแข่งขันมีดังนี้
ไทย พบ อินโดนีเซีย ที่สนาม มีดินห์ สเตเดียม วันที่ 22 มีนาคม 2562 เวลา 17.00 น.
บรูไน พบ ไทย ที่สนาม มีดินห์ สเตเดียม วันที่ 24 มีนาคม 2562 เวลา 17.00 น.
เวียดนาม พบ ไทย ที่สนาม มีดินห์ สเตเดียม วันที่ 26 มีนาคม 2562 เวลา 20.00 น.////:FA Thailand
