ไม่มั่นใจ!ตัวแทนภาคอีสานตอนล่าง โครงการสลาก 80 ผ่านแอปฯ กลไกยุ่งยาก

วันที่ 9 เม.ย.65 ที่หอประชุมศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ต.เสม็ด อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ พันโทหนุน ศันสนา ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้กับตัวแทนจำหน่ายสลากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสลาก 80 เพื่อให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการได้รับทราบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า โครงการสลาก 80 เป็นโครงการที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้วางแนวทางไว้ เพื่อให้ประชาชนสามารถหาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท จากจุดจำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยตัวแทนจำหน่ายจะได้รับสลากไปจำหน่ายจุดละ 25 เล่ม หรือ 2,500 ฉบับ ภายใต้เงื่อนไขที่สำนักงานสลากฯ กำหนด การซื้อขายสลากโครงการนี้ ดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และถุงเงิน ในปีนี้ สำนักงานสลากฯ จะกระจายจุดจำหน่ายออกไปในทางกว้าง จำนวนไม่เกิน 1,000 จุด ทั่วประเทศ

ขณะนี้ ได้เริ่มดำเนินโครงการในระยะแรกไปแล้ว ที่กรุงเทพมหานคร และจ.นนทบุรี สำหรับระยะที่ 2 ได้ทำการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายในส่วนกลาง ปริมณฑล และภาคกลาง เรียบร้อยแล้ว 151 จุด สำหรับการเดินทางมาที่บุรีรัมย์ในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับฟังการชี้แจงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการสลาก 80 และทำการคัดเลือก (Random) กรณีพื้นที่ที่มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเกิน 1 ราย ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายที่สมัครเข้าร่วมโครงการและร่วมเข้ารับฟังหลักเกณฑ์ในวันนี้ประกอบด้วย ตัวแทนจากจังหวัดนครราชสีมา มหาสารคาม อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ยโสธร สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และจังหวัดบุรีรัมย์ รวม 10 จังหวัด จำนวน 423 ราย โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะดำเนินโครงการสลาก 80 จำนวนไม่เกิน 1,000 จุด ได้ทั่วประเทศ ภายในงวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565

โครงการสลาก 80 เป็นมาตรการหนึ่งในการบรรเทาความรุนแรงของปัญหาสลากเกินราคา โดยมุ่งหมายให้มีจุดจำหน่ายสลากที่มีรูปแบบเดียวกันที่ประชาชนสามารถหาซื้อสลากได้ตามราคา ด้วยการซื้อขายผ่านแอปพลิเคชัน จะเป็นการควบคุมการจำหน่ายให้ตัวแทนจำหน่ายขายสลากตามราคาที่กำหนด ซึ่งสามารถตรวจสอบการซื้อ-ขายสลากได้จากระบบแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมนโยบายภาครัฐในด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการซื้อ-ขายสลาก และเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ระหว่างสำนักงานสลากฯ และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งการประชุมชี้แจงครั้งนี้ ยังได้มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ Zoom Meeting อีกด้วย

นางมณเฑียร ช่างเหล็ก อายุ 63 ปี ชาว ต.โพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร บอกว่า ก่อนหน้านี้รับฉลากฯมาขายงวดละ 5 เล่มคือ 500 ฉลับ แต่หากกองสลากฯให้รับจาก 5 เล่มมาเป็น งวดละ 25 เล่มหรือ 2,500 ฉบับ ยังยากต่อการขาย เพราะบางงวดฉลากก็ติดมืออยู่แล้ว หากต้องขายผ่านแอปถุงเงินของผู้จำหน่าย และผู้ซื้อต้องใช้แอปเป๋าตัง ส่วนตัวคิดว่าอาจจะยุ่งยากเพราะผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน

เช่นเดียวกับนายนันทกร ปราณีชนม์ อายุ 23 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ กล่าวเช่นเดียวกันว่า การจ่ายผ่านทางแอป ถือว่ายุ่งยากสำหรับคนที่ไม่มีแอป ไม่รู้เรื่องแอป โดยเฉพาะผู้สูงอายุ อาจจะสร้างความยุ่งยาก (คลิป)

ใส่ความเห็น