ปราสาทสายฟ้า บุกพ่าย บีจี ลูกหนังไทยลีก นัดตกค้าง

ผลฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2020วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-0 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดสนาม : ลีโอ สเตเดียม

ประตู :1-0 อันเดรส ตูเญซ น.58

การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563 เป็นเกมนัดตกค้าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยกทัพออกไปเยือน ที่สนามลีโอ สเตเดียม ของ “เดอะแร็บบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ดเริ่มการแข่งขันครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อน บุกจากซ้ายไปขวา ส่วน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บุกจากขวามาซ้ายของสนาม

นาทีที่ 3 เป็นทางเจ้าถิ่น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ สารัช อยู่เย็น ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงจากระยะไกลบอลพุ่งเลี้ยวออกหลังไป

นาทีที่ 9 เควิน อินเกรโซ ขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ก่อนจะจ่ายบอลเรียดเข้ามาหน้าปากประตู มาร์โก เซโปวิช พยายามที่จะวิ่งเข้าชาร์จบอล ทว่า ฉัตรชัย บุตรพรม ล้มตัวรับบอลไว้ได้ก่อน

นาทีที่ 14 เดอะแร็บบิท ได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย สุมัญญา ปุริสาย เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ วิคเตอร์ คาร์โดโซ ได้โหม่งบอลข้ามคานออกไป

นาทีที่ 29 ยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่มาได้ลุ้นอีกครั้ง สันติภาพ จันทร์หง่อม ได้ง้างเท้ายิงจากระยะไกลบอลพุ่งอันตราย และตรงกรอบประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โดดปัดบอลออกหลังไปได้

นาทีที่ 31 ปราสาทสายฟ้า มาได้เตะมุมบ้าง รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลด้วยเท้าขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ ผู้เล่นเจ้าถิ่นโขกสกัดบอล ก่อนที่บอลจะไปถึง รัตนากร ใหม่คามิ อีกครั้งได้ล้มตัวเปิดบอล ฉัตรชัย บุตรพรม นายด่านบีจี โดดรับบอลไว้ได้

นาทีที่ 32 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เตะมุมอีกครั้ง รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลโรย ๆ มาที่เสาสอง ฉัตรชัย บุตรพรม อ่านเกมออกมารับบอลไว้ได้ทัน

นาที่ที่ 37 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะไกล สุมัญญา ปุริสาย ยืนอยู่ที่บอลก่อนจะตัดสินใจยิงไกลบอลพุ่งไปตรงตัว ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รับบอลเข้าซองไว้ได้สบาย

นาทีที่ 45 เจ้าถิ่นมาได้เตะมุมทางซ้าย สุมัญญา ปุริสาย เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ ผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สกัดบอลได้ ก่อนที่จะเป็น สุภโชค สารชาติ ได้เล่นสวนกลับกระชากบอลขึ้นไปทางขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางไม่มีเพื่อนเข้าถึงบอล ทว่าบีจี สกัดบอลไม่ดี จักรพันธ์ แก้วพรม จิ้มบอลให้ ศุภชัย ใจเด็ด ได้จับก่อนจะแต่งบอลหาจังหวะยิงติดบล็อกไปอย่างน่าเสียดายจากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นประตู ทำให้จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงบุกเสมอ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อยู่ที่ 0-0

กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปรับทัพส่ง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลงสนามมาเล่นแทนที่ ศุภชัย ใจเด็ด ที่มีใบเหลืองติดตัวมาตั้งแต่ครึ่งแรก

นาทีที่ 53 ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ได้โชว์เซฟสวยๆ อีกครั้ง จากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ เจนรบ สำเภาดี เหยียดเท้าจิ้มบอลได้ บอลทำท่าจะพุ่งเสียบเสาใกล้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ล้มตัวปัดบอลไว้ได้ทัน

GOAL!!! นาทีที่ 58 เจ้าถิ่นได้เตะมุม ดาเนียล โรดริเกวซ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปที่เสาแรก ก่อนจะเป็น อันเดรส ตูเญซ ที่โถมตัวเข้ามาโหม่งบอลเข้าประตูไป บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-0 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

นาทีที่ 65 บุรีรัมย์ ยูไนเต้ด ขึ้นเกมสวยงาม สุภโชค สารชาติ ได้บอลก่อนจะจ่ายให้ จักรพันธ์ แก้วพรม แทงบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้แต่งบอลแล้วปั่นบอลโค้งผ่านมือ ฉัตรชัย บุตรพรม เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นการล้ำหน้าของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ทำให้ ปราสาทสายฟ้า ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ

นาทีที่ 79 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกระยะอันตราย กีดี คานยุค ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาเป็นสำรอง ยืนอยู่ที่บอลก่อนจะซัดด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปไกล

นาทีที่ 86 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เตะมุมทางฝั่งขวา กีดี คานยุค เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เจ้าถิ่นสกัดบอลพ้นอันตรายออกมาได้

นาทีที่ 88 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ลุ้นประตู ดาเนียล โรดริเกวซ ได้ตั้งป้อมยิงหน้าเขตโทษบอลจะพุ่งเสียบคาน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังคงว่องไวโดดปัดบอลออกหลังไปได้จากนั้นช่วงทดเวลา 4 นาที ทั้ง 2 ทีมต่างพยายามจะเปิดเกมบุกเข้าหากัน แต่ทว่าไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้

จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกพ่าย บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-1 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า พลาดการเก็บคะแนน ทำให้ยังคงมีคะแนนอยู่ที่ 10 คะแนน จากการลงสนาม 7 นัด

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ, อิรฟาร ฟานดี้ (ชาตรี ฉิมทะเล น.27), สันติภาพ จันทร์หง่อม, สหรัฐ ปองสุวรรณ, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย (สุรชาติ สารีพิมพ์ น.76), ดาเนียล โรดริเกวซ, เจนรบ สำเภาดี (สิโรจน์ ฉัตรทอง น.68)

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู) (C), เควิน อินเกรโซ (กีดี คานยุค น.79), เรนาโต เคลิช, พรรษา เหมวิบูลย์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, รัตนากร ใหม่คามิ, อัคบาร์ อิสมาตุลเลฟ, จักรพันธ์ แก้วพรม, สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.46), มาร์โก เซโปวิช