จังหวัดบุรีรัมย์ แถลงการณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 13เรื่อง ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

วันนี้ (10 กันยายน 63) ที่ค่ายฝึกซ้อม อะคาเดมี่ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์แถลงข่าวสถานการณ์ การพบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เพิ่มเติม จำนวน 1 ราย โดยเป็นผู้ป่วยเพศชาย สัญชาติอุซเบกิสถาน อายุ 29 ปี อาชีพนักฟุตบอลเดินทางมาถึงประเทศไทย ในวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ได้เข้าพักที่ในสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine : ASQ) อนันตราริเวอร์ไซต์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 13 – 27 สิงหาคม 2563 ตรวจตัวอย่างจากโพรงจมูก (NPS) หาการติดเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT- PCR จำนวน 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ เมื่อครบกำหนดจึงเดินทางมายังจังหวัดบุรีรัมย์ และเข้าพักอาศัยที่บ้านพักนักกีฬา

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ก่อนลงแข่งตามข้อตกลง (MOU) ของสมาคมฟุตบอลไทยกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ผลไม่ชัดเจน จึงส่งยืนยันที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อีกครั้ง ผลในวันที่ 10 กันยายน 2563 ยืนยันพบเชื้อ โดยไม่มีอาการของโรคแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 10 –12 กันยายน 2563 ทีมสอบสวนและควบคุมโรค จังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินการสอบสวน และควบคุมโรค ซึ่งจากการสอบสวน พบว่าผู้ป่วยได้เดินทางไปร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า มีการซ้อม และอุ่นเครื่องกับทีมราชบุรีมิตรผล และทีมสโมสรขอนแก่นเอฟซี ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยแบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 170 ราย โดยเป็นนักกีฬาทีมสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด 44 ราย ทีมสโมสรราชบุรีมิตรผล 44 ราย ทีมสโมสรขอนแก่นเอฟซี 42 ราย และผู้สัมผัสในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 40 ราย กลุ่มเสี่ยงต่ำ 399 ราย (อยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ 340 ราย ต่างจังหวัด 59 ราย) จังหวัดบุรีรัมย์มีมาตรการในการกักกันกลุ่มเสี่ยงสูง และประสานกลุ่มเสี่ยงต่ำให้เฝ้าระวังอาการตนเองทุกราย พร้อมทั้งมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผลตรวจ
สำหรับผู้ประกอบการ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า บ้านพักนักกีฬา ทำความสะอาดพื้นผิวที่ตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรค ที่ทางราชการกำหนด อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจุดเสี่ยง เช่น บริเวณประตู ห้องน้ำ โต๊ะอาหาร เป็นต้น ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสั่งปิดสถานประกอบการ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์เจล เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นไทยชนะเมื่อไปในสถานที่ต่างๆ อย่างเคร่งครัด

ใส่ความเห็น